วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2561

งานกลุ่ม


Case study : Lego : Embracing Change by Combining BI with a Flexible Information System
1. บทบาทของฐานข้อมูลในระบบ SAP’s three-tier
เป็นระบบที่มีสถาปัตยกรรมแบบรับ – ให้บริการ 3 ชั้น (Three-tier Client/Server) ซึ่งแบ่งการทำงานเป็นออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
          1. ชั้นการแสดงผล (Presentation Layer) เป็นชั้นของการทำงานที่ให้บริการทางด้านการแสดงผลที่หน้าจอด้วยส่วนต่อประสาทกราฟิกกับผู้ใช้ (Graphical User Interface: GUI) ซึ่งทำงานอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน และติดต่อกับงานส่วนบริการประยุกต์ (Application Server) ผ่านข่ายงานบริเวณเฉพาะที่ (Local Network: LAN) หรือข่ายงานบริเวณกว้าง (Wide-Area Network: WAN)
 2. ชั้นการประยุกต์ (application Layer) เป็นชั้นของการทำงานที่ให้บริการด้านตรรกะประยุกต์ (Application Logic) คือ ประมวลผลคำสั่งในการทำงานและคำสั่งในการคำนวณ เช่น IF, CASE, DO, WHILE,คำสั่งบวก ลบ คูณ หาร เป็นต้น และด้านตรรกะข้อมูล (Data Logic) คือ ประมวลผลคำสั่งภาษาสอบถามเชิงโครงสร้าง (Structured Query language: SQL) โดยชั้นการทำงานนี้ติดต่อกับชั้นฐานข้อมูลผ่านข่ายงานบริเวณเฉพาะที่
 3. ชั้นฐานข้อมูล (Database Layer) เป็นส่วนที่ให้บริการทางด้านการจัดการข้อมูลในระบบฐานข้อมูล ซึ่งทำงานร่วมกับระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database Management System: RDBMS)


ภาพที่ 2.1
สถาปัตยกรรมของระบบ SAP R/3
(Three-tier Client/Server)
2. ความยืดหยุ่นของสถาปัตยกรรมแบบกระจาย
สถาปัตยกรรมระบบฐานข้อมูลแบบกระจายมีความยืดหยุ่น ในการปรับให้เข้ากับสถาปัตยกรรมที่ให้บริการแบบใหม่ๆ ที่มีอยู่ในเวอร์ชั่นล่าสุดของซอฟต์แวร์ และในระบบฐานข้อมูลแบบกระจาย ข้อมูลจะถูกจัดเก็บไว้ในหลายๆ เครื่อง มีการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันผ่านระบบเครือข่าย โดยแต่ละที่จะมีระบบจัดการฐานข้อมูลเป็นของตนเอง และสามารถที่จะทำงานได้ด้วยตนเอง หรือร่วมกันทำงานก็ได้ โดยที่คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง จะเรียกว่าไซต์หรือโหนด

3. คุณลักษณะทางธุรกิจที่รวมอยู่ใน SAP’s business software suite.
โมดูล SCM มีคุณลักษณะที่สำคัญ เช่น การตรวจสอบและวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนการคาดการณ์ การวางแผน และการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง
โมดูล PLM ช่วยให้ผู้จัดการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการและระบบการพัฒนา
โมดูล ERP ประกอบด้วยโปรแกรมประยุกต์การจัดการทุนมนุษย์ (HCM) สำหรับการบริหารและพัฒนาบุคลากร
โมดูล ERP-HCM ของ SAP ประกอบด้วยคุณลักษณะขั้นสูง เช่น "การบริหารจัดการคนเก่งเช่นเดียวกับการจัดการการบริหารงานของพนักงาน การเขียนรายงาน การจัดการด้านการเดินทางและเวลา


4. ข้อดีและข้อเสียของการมีฐานข้อมูลหลายตัวในสถาปัตยกรรมระบบฐานข้อมูล
 แบบกระจาย
 ข้อดี


การทำงานเป็นแบบอิสระต่อกัน
หากข้อมูลของบางส่วนงานเสียหายจะไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนงานอื่น ๆ
มีความเชื่อถือสูง
มีประสิทธิภาพสูง
ประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับใหญ่
             ง่ายต่อการขยายระบบในอนาคต
             เหมาะสำหรับหน่วยงานที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลา
 ข้อเสีย

มีความซับซ้อนมากกว่าแบบรวมศูนย์
มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการบำรุงรักษาสูง
สูญเสียการควบคุมความปลอดภัย
การควบคุมความถูกต้องตรงกันในข้อมูลเป็นไปได้ค่อนข้างยาก
การออกแบบฐานข้อมูลมีความซับซ้อนสูง
ขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีประสบการณ์

MONITORING EMPLOYEES ON NETWORKS : UNETHICAL OR GOOD
BUSINESS?
1. ควรให้มีการตรวจสอบการใช้อินเทอร์เน็ตและอีเมลของพนักงานหรือไม่ อย่างไร
             ควรตรวจสอบ เนื่องจากพนักงานพนักงานเสียเวลาอันมีค่าในบริษัท ในการท่องเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการส่งและรับอีเมล์ส่วนบุคคล การพูดคุยกับเพื่อนผ่านการแชทออนไลน์ และการดาวน์โหลดวิดีโอและเพลง พนักงานให้ความสำคัญกับธุรกิจส่วนตัวมากกว่าธุรกิจของบริษัททำให้บริษัทสูญเสียรายได้ และหากมีการเข้าใช้เครือข่ายของบริษัทสูงเกินไป อาจทำให้เครือข่ายของบริษัทหยุดชะงัก ทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท และป้องกันการส่งอีเมล์ที่เป็นความลับหรือน่าอับอายของบริษัทไปยังบุคคลภายนอกบริษัท
2. นโยบายเกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์และอีเมลที่มีประสิทธิภาพสำหรับบริษัท
นโยบายควรมีการระบุที่ชัดเจนว่าตำแหน่งหรือระดับภายใต้สถานการณ์ใด ที่พนักงานสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของบริษัทในการท่องเว็บหรือใช้อีเมล นโยบายควรแจ้งให้พนักงานทราบว่ากิจกรรมเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบ นโยบายควรปรับให้เหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจเฉพาะขององค์กร ตัวอย่างเช่น บริษัทลงทุนจะต้องอนุญาตให้พนักงานเข้าถึงเว็บเว็บไซต์การลงทุนอื่นๆ ได้

3. ควรแจ้งให้พนักงานทราบว่าพฤติกรรมบนเว็บของพวกเขากำลังได้รับการตรวจ สอบหรือไม่? หรือควรตรวจสอบอย่างลับๆ? อย่างไร
             ควรแจ้งให้พนักงานทราบว่ากำลังถูกตรวจสอบพฤติกรรมบนเว็บไซต์ เพราะขณะนี้บริษัท IBM มี "แนวปฏิบัติการใช้สื่อสังคมออนไลน์" ที่ครอบคลุมกิจกรรมบนเว็บไซต์ของพนักงาน เช่น Facebook และ Twitter แนวทางนี้จะกระตุ้นให้พนักงานไม่ปกปิดตัวตนของพวกเขา เพื่อระลึกถึงว่าพวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาเผยแพร่
 ........................................................................................................................................

กรณีศึกษา : วิธีการที่ STARBUCKS ใช้ในการปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรดิจิทัลและสังคม
คำถาม
1. ปัญหาของ Starbucks คืออะไร เหตุใด Starbucks จึงเลือกแนวทางของเครือข่ายดิจิทัลและสังคม มาแก้ปัญหาของธุรกิจที่เกิดขึ้น
ตอบ ปัญหาของ Starbucks คือรายได้จากการดำเนินงานของบริษัทลดลงอย่างมาก มากกว่า 1 พันล้านเหรียญในปี 2550 เป็น 504 ล้านเหรียญต่อปี 2008 และ 560 ล้านเหรียญในปี 2009 ในภาวะที่เศรษฐกิจที่ชะลอตัวยังมีการเพิ่มขึ้นของคู่แข่ง เช่น Green Coffee Mountain Roasters ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นแม้ในระหว่างที่ภาวะถดถอย
Starbucks จึงมีความจำเป็นต้องตระหนักถึงการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าของตน บริษัทจึงตัดสินใจแก้ไขปัญหาโดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลด้วยการนำ Social network ทุก site มาเชื่อมต่อกัน สร้างขึ้นภายใต้concept และ Direction เดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ข้อมูลข่าวสารที่ดี สามารถพูดคุยติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและไอเดียจากลูกค้าโดยตรง และการสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้าซึ่งมีคุณค่ามหาศาลไม่น้อยสำหรับ Starbucks จึงเป็นเหตุที่ Starbucks เป็นที่ครองใจลูกค้ามาอย่างช้านาน

2. อธิบายว่าการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานของร้านค้า Starbucks ในรูปแบบเดิม มาริเริ่มโครงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร
ตอบ ทำให้ในปี 2010 ผลการดำเนินงานแสดงรายได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว โดยมีรายได้ 1.437 พันล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับรายได้ 560 เหรียญล้านในปี 2009 ซึ่งส่งผลต่อราคาหุ้นที่สูงขึ้นของStarbucks และในปี 2011รายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,750 ล้านเหรียญ ตั้งแต่รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความคิดริเริ่มด้านสื่อสังคมของบริษัทได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในปี 2012 Starbucks มีรายชื่ออยู่ในนิตยสารฟอร์จูนว่าเป็นหนึ่งในสื่อสังคมชั้นนำ และในปี 2008 ได้รับรางวัล 2008 Groundswell Award จากสถาบันวิจับ Forrester เว็บไซต์ของStarbucks เป็นที่นิยมอย่างมากใน Facebook ซึ่งมีแฟนเพจนับล้าน ๆ คน ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่าดาราชื่อดังในสหรัฐอเมริกา

3. วิเคราะห์โครงการสื่อสังคมออนไลน์ ของ Starbucks ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เช่นWebsite, Facebook, Twitter, Google+, Youtube, Flickr, และ Instagramเป็นต้น ว่ามีจุดเด่น และจุดด้อยอะไรบ้าง และนำเสนอสิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไขบนสื่อเหล่านั้น
ตอบ
จุดเด่น
 ภาพหน้าปก Facebook Fanpage, Website หรือ Application ของ Starbucks Thailand. มีความโดดเด่น ชัดเจน และบ่งบอกถึงลักษณะของสินค้าที่ทางร้านจำหน่าย บ่งบอกถึงความเป็น Facebook Fanpage ของแบรนด์สินค้า รวมไปถึงใช้รูปภาพหน้าปกส่งเสริมการขาย หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคที่ติดตาม
  แถบเมนูต่าง ๆ หน้า Facebook Fanpage, Website หรือ Application ของ Starbucks Thailand. เป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเบื่อต้นเกี่ยวกับแบรนด์ ทำให้ผู้ที่สนใจทราบถึงข้อมูลที่แบรนด์ต้องการนำเสนอได้อย่างรวดเร็ว เช่น ข้อมูลการติดต่อ เมนูรวม รูปภาพ เมนูรวมวิดีโอ เป็นต้น
  โพสต์จากผู้เข้าชมหน้า Facebook Fanpage หรือ Website ของ Starbucks Thailand. เป็นส่วนที่ให้สมาชิกของ Facebook Fanpage หรือ เข้ามาแสดงความเห็น พูดคุยกับแบรนด์หรือกับสมาชิกด้วยกันเองแบบไม่เป็นความลับ ที่สามารถแสดงความเห็นได้ทั้งรูปแบบข้อความ วิดีโอ และอีโมติคอน ซึ่งทำให้ลูกค้าที่สนใจในตัวแบรนด์สามารถตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการของร้านได้
  กระดานข้อความหรือคำประกาศแจ้งข่าวสารต่างๆหน้า Facebook Fanpage, Website หรือApplication ของ Starbucks Thailand. ทำให้ลูกค้ารับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแบรนด์ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย รวมทั้งสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นต่อกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่ข้อความ Facebook Fanpageหรือ Website
  ทางข้อความในMailเมื่อลูกค้าทำการสมัครสมาชิกและยืนยันการลงทะเบียนแล้ว จะมีข่าวสาร หรือสิทธิพิเศษแจ้งให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกทราบก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นการดึงดูดให้ลูกค้าสนใจที่จะสมัครสมาชิกกับทางแบรนด์
จุดด้อย
 ทางแบรนด์เป็นแบรนด์ของต่างประเทศทำให้ภาษาที่ใช้แจ้งข่าวสารโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อตัวลูกค้าบางกลุ่ม
 เมื่อไม่ได้มีการเข้าใช้ Application เป็นระยะเวลานานระบบจะทำการล็อคเอาท์ออกทันที เป็นปัญหากับคนที่จำรหัสหรือเมลล์ที่ใช้สมัครไม่ได้
 การส่งเมลล์ของแบรนด์บางครั้งจะเป็นเมลล์ขยะเนื่องจากการจัดส่งที่ผิดพลาด
 ในบางข่าวสารเกี่ยวกับเมนูตัวใหม่ หรือกิจกรรมใหม่ทางแบรนด์ไม่ได้มีการแจ้งรายละเอียดที่ครบถ้วน ทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจและไม่กล้าตัดสินใจที่จะซื้อหรือใช้บริการ
 ราคาของเมนูมักไม่บอกส่วนลดทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจกับราคาจริงของสินค้านั้น
ข้อเสนอแนะ
 ทางแบรนด์ควรเพิ่มข้อความหรือเมลล์เป็นภาษาที่หลากหลายเพื่อการเข้าถึงลูกค้าที่มากขึ้น
Application ของแบรนด์ควรมีความเสถียรมากกว่าปัจจุบัน

4. อธิบายว่าเครือข่ายดิจิทัลและสังคม ทั้งโครงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และโครงการสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และความภักดีกับลูกค้าของ Starbucks ได้อย่างไร
ตอบ     สตาร์บัคส์ ได้นำโครงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และโครงการสื่อสังคมออนไลน์มาใช้เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีและความภักดีกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น STARBUCKS CARD (บัตรสมาชิก), STARBUCKS REWARDS (ระบบสะสมแต้ม), ระบบ E-Wallet, แอปพลิเคชันสำหรับสั่งกาแฟก่อนถึงหน้าร้านได้, ร้านค้าออนไลน์, ใช้สื่อFACEBOOK, LINKEDLN, GOOGLE+,TWITTER, YOUTUBE, FLICKR, INSTAGRAM ในการอัพโหลดวีดีโอ โพสต์ ลงรูปถ่าย โปรโมชันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข้อเสนอพิเศษ สตาร์บัคส์ได้สร้างเครือข่ายดิจิทัลและสังคมเพื่อสนับสนุนกิจกรรมแบบดิจิทัล โดยใช้เครือข่ายดิจิทัลของStarbucks ในการเป็นหุ้นส่วนกับผู้บริการสื่อรายใหญ่ เช่น iTunes, AIS เป็นต้น เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าใช้บริการได้สะดวกขึ้น เข้าถึงโปรโมชั่นได้ง่ายขึ้น ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในสตาร์บัคส์มากยิ่งขึ้นแล้วกลับมาใช้บริการของสตาร์บัคส์

5. วิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จในการนำเครือข่ายดิจิทัลและสังคม มาใช้ในการดำเนินงานของ Starbucks ประกอบด้วยปัจจัยอะไรบ้าง
ตอบ 
  Starbucks ทำการสื่อสารทางการตลาดผ่านเว็บไซต์ และเครือข่ายสังคมออนไลน์ ต่างๆ เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ใช้สร้างประสบการณ์ร่วมกันระหว่างตราสินค้าและผู้บริโภค และการแบ่งปันประสบการณ์ ระหว่างผู้บริโภค เพื่อน คนรู้จัก หรือแม้แต่คนที่ไม่เคยรู้จัก ผ่านการบอกต่อ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างตราสินค้ายุคใหม่
 การทำแอพพลิเคชั่น Starbucks ในปี 2011 เพื่อจ่ายค่ากาแฟ ดูแต้มสะสม หรือแม้กระทั่งให้ทิปบาริสต้า การพัฒนาแอพพลิเคชั่นเป็นการสนับสนุนภาพลักษณ์ขององค์กรอย่างหนึ่ง ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็วในการบริการ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้
Starbucks ให้ประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า ทั้งด้านคุณภาพของวัตถุดิบ รสชาติเครื่องดื่มและอาหารที่มีมารตฐานเดียวกันทุกสาขา บรรยากาศของร้าน การบริการที่ดี และสามารถสั่งกาแฟแบบดัดแปลงตามใจลูกค้า



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

sss