Case study : Lego :
Embracing Change by Combining BI with a Flexible Information System
1.
บทบาทของฐานข้อมูลในระบบ SAP’s three-tier
เป็นระบบที่มีสถาปัตยกรรมแบบรับ – ให้บริการ 3 ชั้น (Three-tier Client/Server)
ซึ่งแบ่งการทำงานเป็นออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. ชั้นการแสดงผล (Presentation Layer)
เป็นชั้นของการทำงานที่ให้บริการทางด้านการแสดงผลที่หน้าจอด้วยส่วนต่อประสาทกราฟิกกับผู้ใช้
(Graphical User Interface: GUI)
ซึ่งทำงานอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน และติดต่อกับงานส่วนบริการประยุกต์
(Application Server) ผ่านข่ายงานบริเวณเฉพาะที่ (Local
Network: LAN) หรือข่ายงานบริเวณกว้าง (Wide-Area Network:
WAN)
2.
ชั้นการประยุกต์ (application Layer)
เป็นชั้นของการทำงานที่ให้บริการด้านตรรกะประยุกต์ (Application Logic) คือ ประมวลผลคำสั่งในการทำงานและคำสั่งในการคำนวณ เช่น IF,
CASE, DO, WHILE,คำสั่งบวก ลบ คูณ หาร เป็นต้น และด้านตรรกะข้อมูล (Data
Logic) คือ ประมวลผลคำสั่งภาษาสอบถามเชิงโครงสร้าง (Structured
Query language: SQL)
โดยชั้นการทำงานนี้ติดต่อกับชั้นฐานข้อมูลผ่านข่ายงานบริเวณเฉพาะที่
3.
ชั้นฐานข้อมูล (Database Layer)
เป็นส่วนที่ให้บริการทางด้านการจัดการข้อมูลในระบบฐานข้อมูล
ซึ่งทำงานร่วมกับระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database
Management System: RDBMS)
ภาพที่
2.1
สถาปัตยกรรมของระบบ
SAP
R/3
(Three-tier
Client/Server)
2.
ความยืดหยุ่นของสถาปัตยกรรมแบบกระจาย
สถาปัตยกรรมระบบฐานข้อมูลแบบกระจายมีความยืดหยุ่น
ในการปรับให้เข้ากับสถาปัตยกรรมที่ให้บริการแบบใหม่ๆ
ที่มีอยู่ในเวอร์ชั่นล่าสุดของซอฟต์แวร์ และในระบบฐานข้อมูลแบบกระจาย
ข้อมูลจะถูกจัดเก็บไว้ในหลายๆ เครื่อง มีการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันผ่านระบบเครือข่าย
โดยแต่ละที่จะมีระบบจัดการฐานข้อมูลเป็นของตนเอง และสามารถที่จะทำงานได้ด้วยตนเอง
หรือร่วมกันทำงานก็ได้ โดยที่คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง จะเรียกว่าไซต์หรือโหนด
3.
คุณลักษณะทางธุรกิจที่รวมอยู่ใน SAP’s business software suite.
โมดูล SCM มีคุณลักษณะที่สำคัญ เช่น การตรวจสอบและวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทาน
ตลอดจนการคาดการณ์ การวางแผน และการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง
โมดูล PLM ช่วยให้ผู้จัดการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการและระบบการพัฒนา
โมดูล ERP ประกอบด้วยโปรแกรมประยุกต์การจัดการทุนมนุษย์
(HCM) สำหรับการบริหารและพัฒนาบุคลากร
โมดูล ERP-HCM ของ SAP ประกอบด้วยคุณลักษณะขั้นสูง เช่น "การบริหารจัดการคนเก่ง" เช่นเดียวกับการจัดการการบริหารงานของพนักงาน การเขียนรายงาน
การจัดการด้านการเดินทางและเวลา
4. ข้อดีและข้อเสียของการมีฐานข้อมูลหลายตัวในสถาปัตยกรรมระบบฐานข้อมูล
ข้อดี
การทำงานเป็นแบบอิสระต่อกัน
หากข้อมูลของบางส่วนงานเสียหายจะไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนงานอื่น
ๆ
มีความเชื่อถือสูง
มีประสิทธิภาพสูง
ประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับใหญ่
ง่ายต่อการขยายระบบในอนาคต
เหมาะสำหรับหน่วยงานที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลา
ข้อเสีย
มีความซับซ้อนมากกว่าแบบรวมศูนย์
มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการบำรุงรักษาสูง
สูญเสียการควบคุมความปลอดภัย
การควบคุมความถูกต้องตรงกันในข้อมูลเป็นไปได้ค่อนข้างยาก
การออกแบบฐานข้อมูลมีความซับซ้อนสูง
ขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีประสบการณ์
MONITORING EMPLOYEES ON NETWORKS : UNETHICAL OR
GOOD
BUSINESS?
1.
ควรให้มีการตรวจสอบการใช้อินเทอร์เน็ตและอีเมลของพนักงานหรือไม่ อย่างไร
ควรตรวจสอบ เนื่องจากพนักงานพนักงานเสียเวลาอันมีค่าในบริษัท
ในการท่องเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการส่งและรับอีเมล์ส่วนบุคคล
การพูดคุยกับเพื่อนผ่านการแชทออนไลน์ และการดาวน์โหลดวิดีโอและเพลง
พนักงานให้ความสำคัญกับธุรกิจส่วนตัวมากกว่าธุรกิจของบริษัททำให้บริษัทสูญเสียรายได้
และหากมีการเข้าใช้เครือข่ายของบริษัทสูงเกินไป
อาจทำให้เครือข่ายของบริษัทหยุดชะงัก ทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท
และป้องกันการส่งอีเมล์ที่เป็นความลับหรือน่าอับอายของบริษัทไปยังบุคคลภายนอกบริษัท
2.
นโยบายเกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์และอีเมลที่มีประสิทธิภาพสำหรับบริษัท
นโยบายควรมีการระบุที่ชัดเจนว่าตำแหน่งหรือระดับภายใต้สถานการณ์ใด
ที่พนักงานสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของบริษัทในการท่องเว็บหรือใช้อีเมล
นโยบายควรแจ้งให้พนักงานทราบว่ากิจกรรมเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบ
นโยบายควรปรับให้เหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจเฉพาะขององค์กร ตัวอย่างเช่น
บริษัทลงทุนจะต้องอนุญาตให้พนักงานเข้าถึงเว็บเว็บไซต์การลงทุนอื่นๆ ได้
3.
ควรแจ้งให้พนักงานทราบว่าพฤติกรรมบนเว็บของพวกเขากำลังได้รับการตรวจ สอบหรือไม่?
หรือควรตรวจสอบอย่างลับๆ? อย่างไร
ควรแจ้งให้พนักงานทราบว่ากำลังถูกตรวจสอบพฤติกรรมบนเว็บไซต์
เพราะขณะนี้บริษัท IBM มี "แนวปฏิบัติการใช้สื่อสังคมออนไลน์"
ที่ครอบคลุมกิจกรรมบนเว็บไซต์ของพนักงาน เช่น Facebook และ Twitter แนวทางนี้จะกระตุ้นให้พนักงานไม่ปกปิดตัวตนของพวกเขา
เพื่อระลึกถึงว่าพวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาเผยแพร่
........................................................................................................................................
กรณีศึกษา : วิธีการที่ STARBUCKS
ใช้ในการปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรดิจิทัลและสังคม
คำถาม
1. ปัญหาของ Starbucks
คืออะไร เหตุใด Starbucks จึงเลือกแนวทางของเครือข่ายดิจิทัลและสังคม
มาแก้ปัญหาของธุรกิจที่เกิดขึ้น
ตอบ ปัญหาของ Starbucks คือรายได้จากการดำเนินงานของบริษัทลดลงอย่างมาก มากกว่า 1
พันล้านเหรียญในปี 2550 เป็น 504 ล้านเหรียญต่อปี 2008 และ 560 ล้านเหรียญในปี
2009 ในภาวะที่เศรษฐกิจที่ชะลอตัวยังมีการเพิ่มขึ้นของคู่แข่ง เช่น Green
Coffee Mountain Roasters ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นแม้ในระหว่างที่ภาวะถดถอย
Starbucks จึงมีความจำเป็นต้องตระหนักถึงการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าของตน
บริษัทจึงตัดสินใจแก้ไขปัญหาโดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลด้วยการนำ Social
network ทุก site มาเชื่อมต่อกัน
สร้างขึ้นภายใต้concept และ Direction เดียวกัน
เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ข้อมูลข่าวสารที่ดี
สามารถพูดคุยติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและไอเดียจากลูกค้าโดยตรง
และการสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้าซึ่งมีคุณค่ามหาศาลไม่น้อยสำหรับ Starbucks
จึงเป็นเหตุที่ Starbucks เป็นที่ครองใจลูกค้ามาอย่างช้านาน
2. อธิบายว่าการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานของร้านค้า
Starbucks
ในรูปแบบเดิม มาริเริ่มโครงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร
ตอบ ทำให้ในปี 2010
ผลการดำเนินงานแสดงรายได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว โดยมีรายได้ 1.437 พันล้านเหรียญ
เมื่อเทียบกับรายได้ 560 เหรียญล้านในปี 2009 ซึ่งส่งผลต่อราคาหุ้นที่สูงขึ้นของStarbucks
และในปี 2011รายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,750 ล้านเหรียญ
ตั้งแต่รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความคิดริเริ่มด้านสื่อสังคมของบริษัทได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในปี 2012
Starbucks มีรายชื่ออยู่ในนิตยสารฟอร์จูนว่าเป็นหนึ่งในสื่อสังคมชั้นนำ
และในปี 2008 ได้รับรางวัล 2008 Groundswell Award จากสถาบันวิจับ
Forrester เว็บไซต์ของStarbucks เป็นที่นิยมอย่างมากใน
Facebook ซึ่งมีแฟนเพจนับล้าน ๆ คน
ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่าดาราชื่อดังในสหรัฐอเมริกา
3. วิเคราะห์โครงการสื่อสังคมออนไลน์ ของ
Starbucks
ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เช่นWebsite, Facebook, Twitter,
Google+, Youtube, Flickr, และ Instagramเป็นต้น
ว่ามีจุดเด่น และจุดด้อยอะไรบ้าง และนำเสนอสิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไขบนสื่อเหล่านั้น
ตอบ
จุดเด่น
จุดเด่น
ภาพหน้าปก Facebook
Fanpage, Website หรือ Application ของ Starbucks
Thailand. มีความโดดเด่น ชัดเจน
และบ่งบอกถึงลักษณะของสินค้าที่ทางร้านจำหน่าย บ่งบอกถึงความเป็น Facebook
Fanpage ของแบรนด์สินค้า รวมไปถึงใช้รูปภาพหน้าปกส่งเสริมการขาย
หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคที่ติดตาม
แถบเมนูต่าง ๆ หน้า Facebook Fanpage, Website หรือ Application ของ Starbucks Thailand. เป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเบื่อต้นเกี่ยวกับแบรนด์
ทำให้ผู้ที่สนใจทราบถึงข้อมูลที่แบรนด์ต้องการนำเสนอได้อย่างรวดเร็ว เช่น
ข้อมูลการติดต่อ เมนูรวม รูปภาพ เมนูรวมวิดีโอ เป็นต้น
โพสต์จากผู้เข้าชมหน้า Facebook Fanpage หรือ
Website ของ Starbucks Thailand. เป็นส่วนที่ให้สมาชิกของ
Facebook Fanpage หรือ เข้ามาแสดงความเห็น
พูดคุยกับแบรนด์หรือกับสมาชิกด้วยกันเองแบบไม่เป็นความลับ ที่สามารถแสดงความเห็นได้ทั้งรูปแบบข้อความ
วิดีโอ และอีโมติคอน
ซึ่งทำให้ลูกค้าที่สนใจในตัวแบรนด์สามารถตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการของร้านได้
กระดานข้อความหรือคำประกาศแจ้งข่าวสารต่างๆหน้า Facebook
Fanpage, Website หรือApplication ของ Starbucks
Thailand. ทำให้ลูกค้ารับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแบรนด์ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย
รวมทั้งสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นต่อกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่ข้อความ Facebook
Fanpageหรือ Website
ทางข้อความในMailเมื่อลูกค้าทำการสมัครสมาชิกและยืนยันการลงทะเบียนแล้ว
จะมีข่าวสาร หรือสิทธิพิเศษแจ้งให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกทราบก่อนเป็นอันดับแรก
ซึ่งเป็นการดึงดูดให้ลูกค้าสนใจที่จะสมัครสมาชิกกับทางแบรนด์
จุดด้อย
ทางแบรนด์เป็นแบรนด์ของต่างประเทศทำให้ภาษาที่ใช้แจ้งข่าวสารโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นภาษาอังกฤษ
ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อตัวลูกค้าบางกลุ่ม
เมื่อไม่ได้มีการเข้าใช้ Application
เป็นระยะเวลานานระบบจะทำการล็อคเอาท์ออกทันที
เป็นปัญหากับคนที่จำรหัสหรือเมลล์ที่ใช้สมัครไม่ได้
การส่งเมลล์ของแบรนด์บางครั้งจะเป็นเมลล์ขยะเนื่องจากการจัดส่งที่ผิดพลาด
ในบางข่าวสารเกี่ยวกับเมนูตัวใหม่
หรือกิจกรรมใหม่ทางแบรนด์ไม่ได้มีการแจ้งรายละเอียดที่ครบถ้วน
ทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจและไม่กล้าตัดสินใจที่จะซื้อหรือใช้บริการ
ราคาของเมนูมักไม่บอกส่วนลดทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจกับราคาจริงของสินค้านั้น
ข้อเสนอแนะ
ทางแบรนด์ควรเพิ่มข้อความหรือเมลล์เป็นภาษาที่หลากหลายเพื่อการเข้าถึงลูกค้าที่มากขึ้น
Application ของแบรนด์ควรมีความเสถียรมากกว่าปัจจุบัน
4. อธิบายว่าเครือข่ายดิจิทัลและสังคม
ทั้งโครงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และโครงการสื่อสังคมออนไลน์
มีส่วนช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และความภักดีกับลูกค้าของ Starbucks
ได้อย่างไร
ตอบ สตาร์บัคส์ ได้นำโครงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
และโครงการสื่อสังคมออนไลน์มาใช้เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีและความภักดีกับลูกค้า
ไม่ว่าจะเป็น STARBUCKS CARD (บัตรสมาชิก),
STARBUCKS REWARDS (ระบบสะสมแต้ม), ระบบ E-Wallet,
แอปพลิเคชันสำหรับสั่งกาแฟก่อนถึงหน้าร้านได้, ร้านค้าออนไลน์, ใช้สื่อFACEBOOK, LINKEDLN,
GOOGLE+,TWITTER, YOUTUBE, FLICKR, INSTAGRAM ในการอัพโหลดวีดีโอ
โพสต์ ลงรูปถ่าย โปรโมชันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข้อเสนอพิเศษ
สตาร์บัคส์ได้สร้างเครือข่ายดิจิทัลและสังคมเพื่อสนับสนุนกิจกรรมแบบดิจิทัล
โดยใช้เครือข่ายดิจิทัลของStarbucks ในการเป็นหุ้นส่วนกับผู้บริการสื่อรายใหญ่
เช่น iTunes, AIS เป็นต้น
เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าใช้บริการได้สะดวกขึ้น
เข้าถึงโปรโมชั่นได้ง่ายขึ้น
ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในสตาร์บัคส์มากยิ่งขึ้นแล้วกลับมาใช้บริการของสตาร์บัคส์
5. วิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จในการนำเครือข่ายดิจิทัลและสังคม
มาใช้ในการดำเนินงานของ Starbucks ประกอบด้วยปัจจัยอะไรบ้าง
ตอบ
ตอบ
Starbucks
ทำการสื่อสารทางการตลาดผ่านเว็บไซต์ และเครือข่ายสังคมออนไลน์ ต่างๆ
เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ใช้สร้างประสบการณ์ร่วมกันระหว่างตราสินค้าและผู้บริโภค
และการแบ่งปันประสบการณ์ ระหว่างผู้บริโภค เพื่อน คนรู้จัก
หรือแม้แต่คนที่ไม่เคยรู้จัก ผ่านการบอกต่อ
ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างตราสินค้ายุคใหม่
การทำแอพพลิเคชั่น Starbucks
ในปี 2011 เพื่อจ่ายค่ากาแฟ ดูแต้มสะสม
หรือแม้กระทั่งให้ทิปบาริสต้า การพัฒนาแอพพลิเคชั่นเป็นการสนับสนุนภาพลักษณ์ขององค์กรอย่างหนึ่ง
ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็วในการบริการ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้
Starbucks ให้ประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า ทั้งด้านคุณภาพของวัตถุดิบ
รสชาติเครื่องดื่มและอาหารที่มีมารตฐานเดียวกันทุกสาขา บรรยากาศของร้าน
การบริการที่ดี และสามารถสั่งกาแฟแบบดัดแปลงตามใจลูกค้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น