
MIS (Management Information System)
MIS คืออะไร
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information System) หรือ MIS คือระบบที่ให้สารสนเทศที่ผู้บริหารต้องการ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะรวมทั้ง สารสนเทศภายในและภายนอกคลอบคลุมถึงบุคคล เอกสาร เทคโนโลยี รวมทั้งสิ่งที่คาดว่าจะเป็นในอนาคต นอกจากนี้ระบบเอ็มไอเอสจะต้อง ให้สารสนเทศ ในช่วงเวลาที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในการวางแผนการควบคุม และการปฏิบัติการขององค์กรได้อย่างถูกต้อง
ข้อมูล และสารสนเทศ
ข้อมูล (Data) คือ ข้อเท็จจริงหรือสาระต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับงานที่ปฏิบัติ อาจเป็นตัวเลขหรือข้อความที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน หรือที่ได้จากหน่วยงานอื่น ๆ ข้อมูลเหล่านี้ ยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจได้ทันที จะนำไปใช้ได้ก็ต่อเมื่อผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว
สารสนเทศ (Information) นั้นคือ ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว อาจใช้วิธีง่าย ๆ เช่น หาค่าเฉลี่ย หรือใช้เทคนิคขั้นสูง เช่นการวิจัยดำเนินงาน เป็นต้น เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพข้อมูลทั่วไปให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์ หรือมีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจหรือตอบปัญหาต่าง ๆ
ระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศ (Information System) คือ ขบวนการประมวลผลข่าวสารที่มีอยู่ ให้อยู่ในรูปของข่าวสารที่ เป็นประโยชน์สูง สุด เพื่อเป็นข้อสรุปที่ใช้สนับสนุนการตัดสินใจของบุคคลระดับบริหาร
ขบวนการที่ทำให้เกิดข่าวสารสารสนเทศนี้ เรียกว่า การประมวลผลผลสารสนเทศ (Information Processing) และเรียกวิธีการประมวลผลสารสนเทศด้วยเครื่องมือทางอีเล็กทรอนิกส์ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT)เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่ประกอบขึ้นด้วยระบบจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล ระบบสื่อสารโทรคมนาคม และอุปกรณ์สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านสารสนเทศที่มีการวางแผน จัดการ และใช้ง่านร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศ มีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ
1. ระบบประมวลผล
2. ระบบสื่อสารโทรคมนาคม
3. การจัดการข้อมูล
ข้อมูล (Data) คือ ข้อเท็จจริงหรือสาระต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับงานที่ปฏิบัติ อาจเป็นตัวเลขหรือข้อความที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน หรือที่ได้จากหน่วยงานอื่น ๆ ข้อมูลเหล่านี้ ยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจได้ทันที จะนำไปใช้ได้ก็ต่อเมื่อผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว
สารสนเทศ (Information) นั้นคือ ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว อาจใช้วิธีง่าย ๆ เช่น หาค่าเฉลี่ย หรือใช้เทคนิคขั้นสูง เช่นการวิจัยดำเนินงาน เป็นต้น เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพข้อมูลทั่วไปให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์ หรือมีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจหรือตอบปัญหาต่าง ๆ
ระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศ (Information System) คือ ขบวนการประมวลผลข่าวสารที่มีอยู่ ให้อยู่ในรูปของข่าวสารที่ เป็นประโยชน์สูง สุด เพื่อเป็นข้อสรุปที่ใช้สนับสนุนการตัดสินใจของบุคคลระดับบริหาร
ขบวนการที่ทำให้เกิดข่าวสารสารสนเทศนี้ เรียกว่า การประมวลผลผลสารสนเทศ (Information Processing) และเรียกวิธีการประมวลผลสารสนเทศด้วยเครื่องมือทางอีเล็กทรอนิกส์ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT)เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่ประกอบขึ้นด้วยระบบจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล ระบบสื่อสารโทรคมนาคม และอุปกรณ์สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านสารสนเทศที่มีการวางแผน จัดการ และใช้ง่านร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศ มีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ
1. ระบบประมวลผล
2. ระบบสื่อสารโทรคมนาคม
3. การจัดการข้อมูล
ฟังก์ชั่นระบบสารสนเทศ
➤กิจกรรมสามอย่างในระบบสารสนเทศสร้างข้อมูลที่องค์กรต้องตัดสินใจดำเนินการควบคุมวิเคราะห์ปัญหาและสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ กิจกรรมเหล่านี้คือการป้อนข้อมูลการประมวลผลและการส่งออก
➤รวบรวมข้อมูลหรือรวบรวมข้อมูลดิบจากภายในองค์กรหรือจากสภาพแวดล้อมภายนอก
➤ประมวลผลการแปลงการป้อนข้อมูลดิบนี้เป็นรูปแบบที่มีความหมาย
➤outputส่งข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลไปยังบุคคลที่จะใช้หรือดำเนินกิจกรรมที่จะใช้
➤ข้อเสนอแนะซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ส่งคืนให้กับสมาชิกที่เหมาะสมขององค์กรเพื่อช่วยในการประเมินหรือแก้ไขขั้นตอนการป้อนข้อมูล
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
➢องค์กรมีโครงสร้างที่ประกอบด้วยระดับต่างๆและความพิเศษโครงสร้างของพวกเขาเผยให้เห็นการแบ่งงานทีาชัดเจน อำนาจและความรับผิดชอบใน บริษัท ธุรกิจจัดอยู่ในลำดับชั้นหรือโครงสร้างพีระมิด ระดับบนของลำดับชั้นประกอบด้วยพนักงานที่เป็นผู้บริหารพนักงานมืออาชีพและด้านเทคนิคในขณะที่ระดับล่างประกอบด้วยบุคลากรที่ปฏิบัติงาน
➢การจัดการคือการทำความเข้าใจกับหลายๆสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับองค์กรตัดสินใจและจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาขององค์กรผู้จัดการกำหนดกลยุทธ์ขององค์กรเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายเหล่านั้นและจัดสรรทรัพยากรบุคคลและการเงินเพื่อประสานงานและบรรลุความสำเร็จ ตลอดพวกเขาจะต้องออกกำลังกายเป็นผู้นำรับผิดชอบ
➢ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ทางกายภาพที่ใช้ในการป้อนข้อมูลการประมวลผลและกิจกรรมการส่งออกในระบบสารสนเทศ ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ดังต่อไปนี้:คอมพิวเตอร์ที่มีหลายขนาดและรูปร่าง (รวมถึงอุปกรณ์มือถือมือถือ),อุปกรณ์นำเข้าส่งออกและจัดเก็บข้อมูลต่างๆ,และอุปกรณ์โทรคมนาคมที่เชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน
➢โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เป็นรากฐานหรือแพลตฟอร์มที่ บริษัท สามารถสร้างระบบข้อมูลเฉพาะได้
➢ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ประกอบด้วยรายละเอียดคำแนะนำล่วงหน้าที่ควบคุมและประสานส่วนประกอบฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ในระบบสารสนเทศ
➢เทคโนโลยีการจัดการข้อมูลประกอบด้วยซอฟต์แวร์ที่ควบคุมการจัดระเบียบข้อมูลเกี่ยวกับสื่อจัดเก็บข้อมูลข้อมูลและวิธีการเข้าถึงข้อมูล
➢เทคโนโลยีระบบเครือข่ายและการสื่อสารโทรคมนาคมประกอบด้วยทั้งอุปกรณ์ทางกายภาพและซอฟต์แวร์เชื่อมโยงฮาร์ดแวร์ต่างๆและถ่ายโอนข้อมูลจากที่ตั้งทางกายภาพหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การสื่อสารสามารถเชื่อมต่อในเครือข่ายเพื่อแชร์ข้อมูลเสียงภาพเสียงและวิดีโอ
แนวทางร่วมกันในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
➢แนวทางทางเทคนิคสำหรับระบบสารสนเทศเน้นรูปแบบทางคณิตศาสตร์เพื่อศึกษาระบบข้อมูลตลอดจนเทคโนโลยีทางกายภาพและความสามารถในการเป็นทางการของระบบเหล่านี้ สาขาวิชาที่ใช้วิธีการทางเทคนิค ได้แก่ วิทยาการคอมพิวเตอร์วิทยาศาสตร์การจัดการและการวิจัยปฏิบัติการ
➢ส่วนสำคัญของระบบข้อมูลเกี่ยวข้องกับประเด็นด้านพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในการพัฒนาและการบำรุงรักษาระบบสารสนเทศในระยะยาว ประเด็นต่างๆเช่นการรวมธุรกิจเชิงกลยุทธ์การออกแบบการใช้ประโยชน์การใช้งานและการจัดการไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมกับรูปแบบที่ใช้ในแนวทางเทคนิค สาขาวิชาพฤติกรรมอื่น ๆ มีส่วนร่วมในแนวคิดและวิธีการที่สำคัญ
➢ส่วนสำคัญของระบบข้อมูลเกี่ยวข้องกับประเด็นด้านพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในการพัฒนาและการบำรุงรักษาระบบสารสนเทศในระยะยาว ประเด็นต่างๆเช่นการรวมธุรกิจเชิงกลยุทธ์การออกแบบการใช้ประโยชน์การใช้งานและการจัดการไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมกับรูปแบบที่ใช้ในแนวทางเทคนิค สาขาวิชาพฤติกรรมอื่น ๆ มีส่วนร่วมในแนวคิดและวิธีการที่สำคัญ
ความสัมพันธ์ของระบบสารสนเทศ
1. ระบบการประมวลผลทางธุรกิจ (Transaction Processing System :TPS)ระบบการประมวลผล เป็นการประมวลผลแบบวันต่อวัน เช่น การรับ-จ่ายบิล ระบบควบคุมสินค้าคงคลัง ระบบการรับ-จ่าย สินค้า เป็นต้น ใช้งานในระดับผู้ปฏิบัติการ ระบบนี้ เป็นระบบสารสนเทศลำดับแรกที่ได้รับการพัฒนาให้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ลักษณะเด่นของ TPS ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน สิ่งที่ องค์กรจะได้รับเมื่อใช้ระบบนี้ คือ ลดจำนวนพนักงาน องค์กรจะมีการบริการที่สะดวกรวดเร็ว ลูกค้ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
2. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information System :MIS) คือ ระบบที่เกี่ยวข้องกับผู้ บริหารที่ต้องการการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้ประโยชน์มากกว่าการ ช่วยงานแบบวันต่อวัน ประกอบไปด้วยโปรแกรมต่าง ที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อขยายขอบเขตความสามารถของธุรกิจ เป็นการนำ Output ของ TPS มาเป็น Input ของระบบลักษณะเด่นของ MIS จะสนับสนุนการทำงานของระบบประมวลผลข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลรายวันจะช่วย ให้ผู้บริหารระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง เรียกใช้ ข้อมูลที่เป็นโครงสร้างได้ตามเวลาที่ต้องการจะมีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับความต้องการข้อมูลที่ เปลี่ยนแปลงไปขององค์กรต้องมีระบบรักษาความลับของข้อมูล และจำกัดการ ใช้งานของบุคคลเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
3. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision
Support System : DSS) คือระบบที่ทำหน้าที่จัดเตรียม
สารสนเทศเพื่อช่วยในการตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อช่วย
ในการตัดสินใจที่ไม่ได้คาดไว้ล่วงหน้า เช่น การตัดสิน
ใจเกี่ยวกับการรวมบริษัทและการหาบริษัทร่วม การขยายโรงงาน ผลิตภัณฑ์ใหม่
ลักษณะเด่นของ DSS จะช่วย ผู้บริหารในกระบวนการการตัดสินใจจะถูกออกแบบมาให้สามารถเรียกใช้ทั้งข้อมูลแบบ กึ่งโครงสร้างและแบบไม่มีโครงสร้างจะต้อง สามารถสนับสนุนผู้ตัดสินใจได้ในทุกระดับ แต่จะเน้น ที่ระดับวางแผนบริหารและวางแผนยุทธศาสตร์มีรูปแบบการใช้งานอเนกประสงค์ มีความ สามารถในการจำลองสถานการณ์ และมีเครื่องมือในการ วิเคราะห์สำหรับช่วยเหลือผู้ทำการตัดสินใจ
ลักษณะเด่นของ DSS จะช่วย ผู้บริหารในกระบวนการการตัดสินใจจะถูกออกแบบมาให้สามารถเรียกใช้ทั้งข้อมูลแบบ กึ่งโครงสร้างและแบบไม่มีโครงสร้างจะต้อง สามารถสนับสนุนผู้ตัดสินใจได้ในทุกระดับ แต่จะเน้น ที่ระดับวางแผนบริหารและวางแผนยุทธศาสตร์มีรูปแบบการใช้งานอเนกประสงค์ มีความ สามารถในการจำลองสถานการณ์ และมีเครื่องมือในการ วิเคราะห์สำหรับช่วยเหลือผู้ทำการตัดสินใจ
4. ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง (Executive
Support System : ESS) คือ ESS ประเภท พิเศษ
ที่ถูกพัฒนาสำหรับผู้บริหารระดับสูงโดยเฉพาะช่วย
ให้ผู้บริหารระดับสูงที่ไม่คุ้นเคยกับเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถใช้ระบบ
สารสนเทศได้ง่ายขึ้น โดยใช้เมาส์เลื่อนหรือจอภาพแบบ สัมผัส
เพื่อเชื่อมโยงข่าวสารระหว่างกัน ทำให้ผู้ บริหารไม่ต้องจำคำสั่ง
ลักษณะเด่นของ ESS ไม่จำเป็นต้องมีทักษะทางคอมพิวเตอร์สูงระบบสามารถใช้งานได้ง่ามีความยืดหยุ่นสูง
จะต้องสามารถเข้ากันได้กับรูปแบบการทำงานของผู้บริหารการใช้งาน ใช้ในการตรวจสอบ
ควบคุมการสนับสนุนการตัดสินใจ ผู้บริหารระดับสูง ไม่มีโครงสร้างที่แน่นอนการสนับสนุนข้อมูล
ทั้งภายในและภายนอกองค์กรผลลัพธ์ที่แสดง ตัวอักษร ตาราง ภาพและเสียง
รวมทั้งระบบมัลติมีเดียการใช้งานกราฟิกสูง จะใช้รูปแบบการนำเสนอต่าง ๆความเร็วในการตอบสนอง
จะต้องตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทันทีทันใด
5. Office Automation
System : OAS สำนักงานอัตโนมัติ
(Office Automation)
เป็นการนำเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้ช่วยให้การปฏิบัติงานในสำนักงานมีประสิทธิภาพมีความคล่องตัวสะดวกรวดเร็วมากขึ้น โดยการนำเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดทำ การเก็บรักษา การส่งข้อมูลการติดต่อสื่อสารในสำนักงาน ทั้งยังเป็นการลดปริมาณกระดาษลง สามารถสื่อสารผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว การจัดเก็บเอกสาร สามารถนำเอาเครื่องมือเครื่องใช้ในการจัดเก็บมาช่วยให้การจัดเก็บมีประสิทธิภาพมากขึ้นค้นหาได้ง่ายและประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมายสำหรับสำนักงานอัตโนมัติ
เป็นการนำเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้ช่วยให้การปฏิบัติงานในสำนักงานมีประสิทธิภาพมีความคล่องตัวสะดวกรวดเร็วมากขึ้น โดยการนำเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดทำ การเก็บรักษา การส่งข้อมูลการติดต่อสื่อสารในสำนักงาน ทั้งยังเป็นการลดปริมาณกระดาษลง สามารถสื่อสารผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว การจัดเก็บเอกสาร สามารถนำเอาเครื่องมือเครื่องใช้ในการจัดเก็บมาช่วยให้การจัดเก็บมีประสิทธิภาพมากขึ้นค้นหาได้ง่ายและประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมายสำหรับสำนักงานอัตโนมัติ
คุณสมบัติที่ดีของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
1. ความสามารถในการจัดการข้อมูล (data manipulation)เพื่อให้เป็นสารสนเทศที่ พร้อมสําหรับนําไปใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ปกติข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนิน ธุรกิจจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 2. ความมั่นคงของข้อมูล (data security) ที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากความ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือการก่อการร้ายต่อระบบทําให้สารสนเทศรั่วไหลออกไปสู่ บุคคลภายนอก 3. ความยืดหยุ่น (flexibility) สามารถในการปรับตัวได้เข้ากับสถานการณ์ได้เพื่อให้ สอดคล้องกับการใช้งานหรือปัญหาที่เกิดขึ้น และสามารถตอบสนองความต้องการของ ผู้บริหารได้อยู่เสมอ โดยมีอายุการใช้งาน การบํารุงรักษา และค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม 4. ความพอใจของผู้ใช้ (user satisfaction) โดยพัฒนาระบบให้ตรงกับความต้องการ และพยายามทําให้ผู้ใช้เกิดความพอใจ สามารถกระตุ้นหรือโน้มน้าวให้ผู้ใช้หันมาใช้ระบบให้มากขึ้น ทําให้ระบบมีความสําคัญและคุ้มค่ากับการลงทุน
1. ความสามารถในการจัดการข้อมูล (data manipulation)เพื่อให้เป็นสารสนเทศที่ พร้อมสําหรับนําไปใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ปกติข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนิน ธุรกิจจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 2. ความมั่นคงของข้อมูล (data security) ที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากความ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือการก่อการร้ายต่อระบบทําให้สารสนเทศรั่วไหลออกไปสู่ บุคคลภายนอก 3. ความยืดหยุ่น (flexibility) สามารถในการปรับตัวได้เข้ากับสถานการณ์ได้เพื่อให้ สอดคล้องกับการใช้งานหรือปัญหาที่เกิดขึ้น และสามารถตอบสนองความต้องการของ ผู้บริหารได้อยู่เสมอ โดยมีอายุการใช้งาน การบํารุงรักษา และค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม 4. ความพอใจของผู้ใช้ (user satisfaction) โดยพัฒนาระบบให้ตรงกับความต้องการ และพยายามทําให้ผู้ใช้เกิดความพอใจ สามารถกระตุ้นหรือโน้มน้าวให้ผู้ใช้หันมาใช้ระบบให้มากขึ้น ทําให้ระบบมีความสําคัญและคุ้มค่ากับการลงทุน
BUSINESSPROCESSES คืออะไร?
กระบวนการทางธุรกิจคือการรวบรวมกิจกรรมที่จำเป็นในการผลิตผลิตภัณฑ์หรือบริการ กิจกรรมเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากการไหลของข้อมูลข้อมูลและความรู้ระหว่างผู้เข้าร่วมกระบวนการทางธุรกิจ กระบวนการทางธุรกิจหมายถึงวิธีการเฉพาะที่องค์การประสานงานด้านการทำงานข้อมูลและความรู้และวิธีการที่ฝ่ายบริหารเลือกที่จะประสานงาน
กระบวนการทางธุรกิจคือการรวบรวมกิจกรรมที่จำเป็นในการผลิตผลิตภัณฑ์หรือบริการ กิจกรรมเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากการไหลของข้อมูลข้อมูลและความรู้ระหว่างผู้เข้าร่วมกระบวนการทางธุรกิจ กระบวนการทางธุรกิจหมายถึงวิธีการเฉพาะที่องค์การประสานงานด้านการทำงานข้อมูลและความรู้และวิธีการที่ฝ่ายบริหารเลือกที่จะประสานงาน
ธุรกิจทางสังคม คืออะไร?
การใช้แพลตฟอร์มเครือข่ายทางสังคมรวมถึง Facebook, Twitter และเครื่องมือทางสังคมภายในองค์กรเพื่อดึงดูดพนักงานลูกค้าและซัพพลายเออร์ของตน เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้คนงานสามารถตั้งค่าโปรไฟล์กลุ่มแบบฟอร์มและ "ติดตาม" การอัปเดตสถานะของกันและกันได้ เป้าหมายของธุรกิจเพื่อสังคมคือการสื่อสารกับกลุ่มต่างๆทั้งภายในและภายนอกองค์กรเพื่อเร่งรัดและเสริมสร้างการแบ่งปันข้อมูลนวัตกรรมและการตัดสินใจ
การร่วมมือกัน คืออะไร?
การทำงานร่วมกันทำงานร่วมกับผู้อื่นเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันและชัดเจน การทำงานร่วมกันมุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จของภารกิจหรือภารกิจและมักเกิดขึ้นในธุรกิจหรือองค์กรอื่น ๆ และระหว่างธุรกิจพนักงานอาจทำงานร่วมกันในกลุ่มนอกระบบที่ไม่ใช่ส่วนที่เป็นทางการของโครงสร้างองค์กรของ บริษัท ธุรกิจหรืออาจจัดเป็นทีมที่เป็นทางการ ทีมงานมีภารกิจที่เฉพาะเจาะจงที่ใครบางคนในธุรกิจที่ได้รับมอบหมายให้สมาชิกในทีมต้องทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุภารกิจเฉพาะและบรรลุภารกิจของทีม
การใช้แพลตฟอร์มเครือข่ายทางสังคมรวมถึง Facebook, Twitter และเครื่องมือทางสังคมภายในองค์กรเพื่อดึงดูดพนักงานลูกค้าและซัพพลายเออร์ของตน เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้คนงานสามารถตั้งค่าโปรไฟล์กลุ่มแบบฟอร์มและ "ติดตาม" การอัปเดตสถานะของกันและกันได้ เป้าหมายของธุรกิจเพื่อสังคมคือการสื่อสารกับกลุ่มต่างๆทั้งภายในและภายนอกองค์กรเพื่อเร่งรัดและเสริมสร้างการแบ่งปันข้อมูลนวัตกรรมและการตัดสินใจ
การร่วมมือกัน คืออะไร?
การทำงานร่วมกันทำงานร่วมกับผู้อื่นเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันและชัดเจน การทำงานร่วมกันมุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จของภารกิจหรือภารกิจและมักเกิดขึ้นในธุรกิจหรือองค์กรอื่น ๆ และระหว่างธุรกิจพนักงานอาจทำงานร่วมกันในกลุ่มนอกระบบที่ไม่ใช่ส่วนที่เป็นทางการของโครงสร้างองค์กรของ บริษัท ธุรกิจหรืออาจจัดเป็นทีมที่เป็นทางการ ทีมงานมีภารกิจที่เฉพาะเจาะจงที่ใครบางคนในธุรกิจที่ได้รับมอบหมายให้สมาชิกในทีมต้องทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุภารกิจเฉพาะและบรรลุภารกิจของทีม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น